วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทำอย่างไร..เมื่อคุณรักเขาข้างเดียว?

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/28/2552 0 ความคิดเห็น
รักข้างเดียวแบบที่1
เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนคุณเคยหลงรักเพื่อนของเพื่อนหรือเปล่า? เหมาะเหลือเกิน จะมีอะไรดีไปกว่าผู้ชายที่ปรากฎตัวทุกที่ร่วมกับคุณอีกล่ะ คุณจะได้แสดงความหลงใหลเขาสะดวกทุกเวลาวิธีสงวนท่าทีให้ยึดหลักการรุก 3 ครั้ง ติดต่อเขาเพียง 3 ครั้งนั้น แล้วถอยมาดูท่าที การส่งอีเมล์ การกินอาหารด้วยกัน หรือแม้แต่ส่งข้อความผ่านมือถือให้คิดแต่ละครั้งเป็นการรุกครั้งเดียว แสดงให้เห็นชัดเจนและตรงไปตรงมา เมื่อคุณเข้าหาเขาและถ้าเขาไม่มีปฎิกิริยาใดๆ ก็ควรยอมรับความจริงและสงวนท่าทีบ้างเพื่อจะได้รักษาหน้าของคุณไว้ จำไว้ว่ายิ่งคุณหลงใหลใครสักคนมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งต้องการเขามากขึ้นเท่านั้น คุณต้องใจเย็น และระบายความรู้สึกของตัวเองให้กับคนที่ไว้ใจได้และซื่อสัตย์กับคุณเท่านั้น
รักข้างเดียวแบบที่ 2
เขามีแฟนนี่เป็นสถานการณ์ที่คุณจะไม่มีทางชนะแน่นอนและควรหลีกเลี่ยงทุกวิถีทางการแย่งผู้ชายหญิงอื่นเป็นความคิดที่ไม่ฉลาดเอาซะเลย แต่ก็ยังมีผู้หญิงบางคนชอบที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองวิธีสงวนท่าทีผู้ชายส่วนมากจะไม่บอกตรงๆว่ามีแฟนแล้ว และพอบอกก็สายเกินไปเพราะคุณสนใจเขาเต็มที่เสียแล้ว แต่คุณยังมีทางเลือกหนึ่งถ้าไม่อยากให้ตัวเองเจ็บปวด นั่นคือวางมือจากเขา ถ้าคุณทำไม่ได้ และเขาเริ่มมองคุณแปลกๆก็ยิ่งแน่นอนว่าคุณไม่มีทางสร้างสัมพันธ์กับเขาในลักษณะนี้แน่ เขาอาจจูบคุณหรือพยายามพาคุณขึ้นเตียง และบอกว่าเขาเลิกกับแฟนแล้ว แต่อย่าหลงเชื่อสรุปแล้วถ้าคิดว่าเขามีใจด้วย และคุณพร้อมจะรอ ก็รักษาความเป็นเพื่อนไว้ แต่อย่ามีเซ็กซ์กับเขา
รักข้างเดียวแบบที่ 3
เขาเป็นเพื่อนสนิทกรณีนี้คุณหลงรักเพื่อนสนิทตัวเอง นี่เป็นการเริ่มต้นความรักแท้ หรือคุณกำลังย่างเข้าสู่พื้นที่อันตรายกันแน่? คุณจะพบคำตอบก็ต่อเมื่อซื่อสัตย์กับตัวเอง คุณแอบรักเขามาตลอดหรือเปล่า? (ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่คุณโฉบเข้าไปในชีวิตเขาตั้งแต่แรก) หรือคุณเป็นเพื่อนกันจริงๆ จนกระทั่งความรู้สึกได้เปลี่ยนไป?วิธีสงวนท่าทีไม่ว่าคุณจะมีความรู้สึกอะไรกับเพื่อน ขอให้จัดการให้เด็ดขาดก่อนที่คุณจะหมกมุ่นจนคิดไปเองว่าสายตาทุกครั้งของเขาหมายถึงเขารักคุณ ถ้าคุณรุกเขาระหว่างดื่มกันสองสามแก้ว และไม่แน่ใจเจตนาของเขา ให้ถามเพื่อน ไม่อย่างนั้นก็ควงคนอื่นต่อหน้าเขา เพราะมันเป็นวิธีกระตุ้นความรู้สึกของเขาได้แน่นอน ถ้าเห็นชัดว่าเขาทนเห็นคุณกับผู้ชายอื่นไม่ได้ คุณก็เข้าใจแล้วทีนี้ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น ก็ต้องรวบรวมความเข้มแข็งแล้วถอนตัวจากเขา หรือยอมรับว่าคุณอาจะเสียเพื่อนดีๆไปหนึ่งคน
รักข้างเดียวแบบที่ 4
เขาเป็นคนขับรถ พนักงานขาย บาร์เทนเดอร์ ฯลฯไม่ว่าเขาจะเป็นบาร์เทนเดอร์ในผับเจ้าประจำ หรือเป็นพันกงานขายของที่คุณซื้อรองเท้าเมื่ออาทิตย์ก่อน ผู้ชายที่คุณลุ่มหลงแบบบังเอิญนี้อันตรายพอๆกับรักข้างเดียวแบบอื่นวิธีสงวนท่าทีสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณยอมรับการถูกปฎิเสธโดยดีคือวิธีที่คุณมองตัวเอง ผู้หญิงส่วนมากคิดว่าต้องใส่เสื้อผ้ารัดติ้วหรือมีจริตอย่างนั้นอย่างนี้ถึงจะจับผู้ชายได้ แต่วิธีพวกนั้นมีแต่จะดึงดูดผู้ชายประเภทที่เราไม่ต้องการต่างหาก ให้คิดแง่ดีกับตัวเองและรู้ว่าต้องการอะไร แล้วคุณจะพบคนที่ชื่นชมตัวตนของคุณ
รักข้างเดียวแบบที่ 5
เจอเขาเพียงคืนเดียว แล้วเขาก็กลับประเทศความรักแบบนี้มักเกิดกับชายหนุ่มที่ไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกับเรา ก็เป็นเรื่องของระยะทางและความบังเอิญนั่นล่ะ เหมือนกับว่าเราเจอคนที่ถูกคอที่สุด มีความสุขที่สุด ใช่ที่สุด แต่เขาอยู่ตรงนั้นกับเราได้เพียงหนึ่งคืนแล้วเขาก็จากเราไปวิธีสงวนท่าทีความรักแบบนี้ฝ่ายชายคนที่ต้องจากไป ก็คงรู้สึกคล้ายๆคุณ แต่เขาอาจไม่ได้หวังอะไรมากกว่าจะมีอะไรเป็นไปได้เกิดขึ้น ก็คงจะต้องแลกอีเมล์กัน คุยกันฉันท์เพื่อนไปก่อน เขียนจดหมายไปหา โทร.ไปหาบ้าง ส่งความรู้สึกดีๆให้ตลอด แต่ไม่ต้องอินเลิฟกับเขาแบบหมกมุ่น เขาจะกลัวๆงงๆได้ แล้วในที่สุด ถ้าเวลานั้นคุณยังรู้สึกกับเขาอยู่ แล้วเขารู้สึกได้ ทุกอย่างมันก็จะเป็นไปได้ตามมาเอง

คุณกำลังกลัวความรัก?

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/28/2552 0 ความคิดเห็น

"ความรัก คือ การทิ้งความกลัวไป" คำกล่าวที่มีความหมายดีๆ นี้ดูสวยงาม แต่อาจจะยากแก่การลงมือทำ จริงๆ ในสายตาของบางคน ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาเลย หรือคนที่เคยผ่านประสบการณ์เลวร้าย จากความรักมาแล้ว

ที่เป็นอย่างนี้ อาจเพราะพวกเขารู้สึกว่าการนำตัวเองเข้าไปพัวพันกับความรัก ก็เหมือนกับการเสี่ยง . . .เสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธ
ถูกทำให้ผิดหวัง . . .ถูกทอดทิ้ง . . .และทำให้เจ็บปวด จึงเป็นที่มาของความรู้สึก . . .กลัวความรัก

แม้ความรักอาจไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต แต่มันก็มีค่า . . .ต่อการมีชีวิตอยู่ เป็นแรงบันดาลใจให้เราทำอะไรได้มากมาย
อยากบอกกับคนที่ยังกลัวความรักว่าไม่ผิดหรอกที่คุณจะกลัวมัน เพราะอย่างน้อยคุณก็รู้ตัวเองดีว่ากลัวควมรัก ต่างกับคนที่วิ่งหนีความรัก และเฝ้าหลอกลวงตัวเองว่ามีความสุขดีแล้วกับการอยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องพบเจอ และสร้างกำแพงขึ้นมาปิดกั้นตัวเอง เพราะกลัวจะต้องรักคนอื่น

แต่ลืมนึกไปว่า . . . ถึงเราจะหนีมันอย่างไร ก็หนีไม่พ้นหรอก เพราะความรักมันอยู่ในใจของเรา จะหนียังไงมันก็เจ็บปวดอยู่ลึกๆ แล้วคุ้มหรือเปล่ากับการต้องหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างนั้น
หนทางของความรัก มันอาจจะไม่ได้เป็นภาพที่ชัดเจน ให้เราเดินไปได้สะดวกหรือง่ายๆ
แต่สิ่งที่รออยู่ที่ปลายทางนั้น ก็มีค่ามากพอ ที่จะกวักมือเรียกเราให้เดินเข้าไปหา
แทนที่เราจะวิ่งหนีมัน ก็เปลี่ยนมาเป็นเตรียมตัวเองให้พร้อม เวลาที่จะต้องไปเจอกับมันดีกว่า เหมือนกับเวลาที่เราออกเดินทาง ก็เตรียมเสื้อกันหนาวไปบ้าง เผื่อเจออากาศที่หนาวเย็น เสื้อกันฝนหยิบไปหน่อยก็ดี เผื่อหยิบมาใส่เวลาที่ฝนมันตก หยูกยาก็ติดไปบ้างนิดๆ หน่อยๆ พอปฐมพยาบาลตัวเองเบื้องต้นเวลาเจ็บไข้

แต่ถ้าเดินทางออกไปแล้วโชคร้าย ต้องสะบักสะบอมกลับมาก็ไม่เป็นไร . . .รักษาตัวเองใหม่ เผื่อออกเดินทางในครั้งต่อไปก็เท่านั้นเอง แต่เชื่อมั้ยว่า . . . การเดินทางครั้งต่อไปของเรา มันต้องดีกว่าครั้งแรกอยู่แล้วล่ะ . . . ว่ามั้ย . . .?
 

be'BeAr Copyright © 2009 Baby Shop is Designed by Ipietoon Sponsored by Emocutez