วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทำอย่างไร..เมื่อคุณรักเขาข้างเดียว?

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/28/2552 0 ความคิดเห็น
รักข้างเดียวแบบที่1
เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนคุณเคยหลงรักเพื่อนของเพื่อนหรือเปล่า? เหมาะเหลือเกิน จะมีอะไรดีไปกว่าผู้ชายที่ปรากฎตัวทุกที่ร่วมกับคุณอีกล่ะ คุณจะได้แสดงความหลงใหลเขาสะดวกทุกเวลาวิธีสงวนท่าทีให้ยึดหลักการรุก 3 ครั้ง ติดต่อเขาเพียง 3 ครั้งนั้น แล้วถอยมาดูท่าที การส่งอีเมล์ การกินอาหารด้วยกัน หรือแม้แต่ส่งข้อความผ่านมือถือให้คิดแต่ละครั้งเป็นการรุกครั้งเดียว แสดงให้เห็นชัดเจนและตรงไปตรงมา เมื่อคุณเข้าหาเขาและถ้าเขาไม่มีปฎิกิริยาใดๆ ก็ควรยอมรับความจริงและสงวนท่าทีบ้างเพื่อจะได้รักษาหน้าของคุณไว้ จำไว้ว่ายิ่งคุณหลงใหลใครสักคนมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งต้องการเขามากขึ้นเท่านั้น คุณต้องใจเย็น และระบายความรู้สึกของตัวเองให้กับคนที่ไว้ใจได้และซื่อสัตย์กับคุณเท่านั้น
รักข้างเดียวแบบที่ 2
เขามีแฟนนี่เป็นสถานการณ์ที่คุณจะไม่มีทางชนะแน่นอนและควรหลีกเลี่ยงทุกวิถีทางการแย่งผู้ชายหญิงอื่นเป็นความคิดที่ไม่ฉลาดเอาซะเลย แต่ก็ยังมีผู้หญิงบางคนชอบที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองวิธีสงวนท่าทีผู้ชายส่วนมากจะไม่บอกตรงๆว่ามีแฟนแล้ว และพอบอกก็สายเกินไปเพราะคุณสนใจเขาเต็มที่เสียแล้ว แต่คุณยังมีทางเลือกหนึ่งถ้าไม่อยากให้ตัวเองเจ็บปวด นั่นคือวางมือจากเขา ถ้าคุณทำไม่ได้ และเขาเริ่มมองคุณแปลกๆก็ยิ่งแน่นอนว่าคุณไม่มีทางสร้างสัมพันธ์กับเขาในลักษณะนี้แน่ เขาอาจจูบคุณหรือพยายามพาคุณขึ้นเตียง และบอกว่าเขาเลิกกับแฟนแล้ว แต่อย่าหลงเชื่อสรุปแล้วถ้าคิดว่าเขามีใจด้วย และคุณพร้อมจะรอ ก็รักษาความเป็นเพื่อนไว้ แต่อย่ามีเซ็กซ์กับเขา
รักข้างเดียวแบบที่ 3
เขาเป็นเพื่อนสนิทกรณีนี้คุณหลงรักเพื่อนสนิทตัวเอง นี่เป็นการเริ่มต้นความรักแท้ หรือคุณกำลังย่างเข้าสู่พื้นที่อันตรายกันแน่? คุณจะพบคำตอบก็ต่อเมื่อซื่อสัตย์กับตัวเอง คุณแอบรักเขามาตลอดหรือเปล่า? (ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่คุณโฉบเข้าไปในชีวิตเขาตั้งแต่แรก) หรือคุณเป็นเพื่อนกันจริงๆ จนกระทั่งความรู้สึกได้เปลี่ยนไป?วิธีสงวนท่าทีไม่ว่าคุณจะมีความรู้สึกอะไรกับเพื่อน ขอให้จัดการให้เด็ดขาดก่อนที่คุณจะหมกมุ่นจนคิดไปเองว่าสายตาทุกครั้งของเขาหมายถึงเขารักคุณ ถ้าคุณรุกเขาระหว่างดื่มกันสองสามแก้ว และไม่แน่ใจเจตนาของเขา ให้ถามเพื่อน ไม่อย่างนั้นก็ควงคนอื่นต่อหน้าเขา เพราะมันเป็นวิธีกระตุ้นความรู้สึกของเขาได้แน่นอน ถ้าเห็นชัดว่าเขาทนเห็นคุณกับผู้ชายอื่นไม่ได้ คุณก็เข้าใจแล้วทีนี้ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น ก็ต้องรวบรวมความเข้มแข็งแล้วถอนตัวจากเขา หรือยอมรับว่าคุณอาจะเสียเพื่อนดีๆไปหนึ่งคน
รักข้างเดียวแบบที่ 4
เขาเป็นคนขับรถ พนักงานขาย บาร์เทนเดอร์ ฯลฯไม่ว่าเขาจะเป็นบาร์เทนเดอร์ในผับเจ้าประจำ หรือเป็นพันกงานขายของที่คุณซื้อรองเท้าเมื่ออาทิตย์ก่อน ผู้ชายที่คุณลุ่มหลงแบบบังเอิญนี้อันตรายพอๆกับรักข้างเดียวแบบอื่นวิธีสงวนท่าทีสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณยอมรับการถูกปฎิเสธโดยดีคือวิธีที่คุณมองตัวเอง ผู้หญิงส่วนมากคิดว่าต้องใส่เสื้อผ้ารัดติ้วหรือมีจริตอย่างนั้นอย่างนี้ถึงจะจับผู้ชายได้ แต่วิธีพวกนั้นมีแต่จะดึงดูดผู้ชายประเภทที่เราไม่ต้องการต่างหาก ให้คิดแง่ดีกับตัวเองและรู้ว่าต้องการอะไร แล้วคุณจะพบคนที่ชื่นชมตัวตนของคุณ
รักข้างเดียวแบบที่ 5
เจอเขาเพียงคืนเดียว แล้วเขาก็กลับประเทศความรักแบบนี้มักเกิดกับชายหนุ่มที่ไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกับเรา ก็เป็นเรื่องของระยะทางและความบังเอิญนั่นล่ะ เหมือนกับว่าเราเจอคนที่ถูกคอที่สุด มีความสุขที่สุด ใช่ที่สุด แต่เขาอยู่ตรงนั้นกับเราได้เพียงหนึ่งคืนแล้วเขาก็จากเราไปวิธีสงวนท่าทีความรักแบบนี้ฝ่ายชายคนที่ต้องจากไป ก็คงรู้สึกคล้ายๆคุณ แต่เขาอาจไม่ได้หวังอะไรมากกว่าจะมีอะไรเป็นไปได้เกิดขึ้น ก็คงจะต้องแลกอีเมล์กัน คุยกันฉันท์เพื่อนไปก่อน เขียนจดหมายไปหา โทร.ไปหาบ้าง ส่งความรู้สึกดีๆให้ตลอด แต่ไม่ต้องอินเลิฟกับเขาแบบหมกมุ่น เขาจะกลัวๆงงๆได้ แล้วในที่สุด ถ้าเวลานั้นคุณยังรู้สึกกับเขาอยู่ แล้วเขารู้สึกได้ ทุกอย่างมันก็จะเป็นไปได้ตามมาเอง

คุณกำลังกลัวความรัก?

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/28/2552 0 ความคิดเห็น

"ความรัก คือ การทิ้งความกลัวไป" คำกล่าวที่มีความหมายดีๆ นี้ดูสวยงาม แต่อาจจะยากแก่การลงมือทำ จริงๆ ในสายตาของบางคน ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาเลย หรือคนที่เคยผ่านประสบการณ์เลวร้าย จากความรักมาแล้ว

ที่เป็นอย่างนี้ อาจเพราะพวกเขารู้สึกว่าการนำตัวเองเข้าไปพัวพันกับความรัก ก็เหมือนกับการเสี่ยง . . .เสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธ
ถูกทำให้ผิดหวัง . . .ถูกทอดทิ้ง . . .และทำให้เจ็บปวด จึงเป็นที่มาของความรู้สึก . . .กลัวความรัก

แม้ความรักอาจไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต แต่มันก็มีค่า . . .ต่อการมีชีวิตอยู่ เป็นแรงบันดาลใจให้เราทำอะไรได้มากมาย
อยากบอกกับคนที่ยังกลัวความรักว่าไม่ผิดหรอกที่คุณจะกลัวมัน เพราะอย่างน้อยคุณก็รู้ตัวเองดีว่ากลัวควมรัก ต่างกับคนที่วิ่งหนีความรัก และเฝ้าหลอกลวงตัวเองว่ามีความสุขดีแล้วกับการอยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องพบเจอ และสร้างกำแพงขึ้นมาปิดกั้นตัวเอง เพราะกลัวจะต้องรักคนอื่น

แต่ลืมนึกไปว่า . . . ถึงเราจะหนีมันอย่างไร ก็หนีไม่พ้นหรอก เพราะความรักมันอยู่ในใจของเรา จะหนียังไงมันก็เจ็บปวดอยู่ลึกๆ แล้วคุ้มหรือเปล่ากับการต้องหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างนั้น
หนทางของความรัก มันอาจจะไม่ได้เป็นภาพที่ชัดเจน ให้เราเดินไปได้สะดวกหรือง่ายๆ
แต่สิ่งที่รออยู่ที่ปลายทางนั้น ก็มีค่ามากพอ ที่จะกวักมือเรียกเราให้เดินเข้าไปหา
แทนที่เราจะวิ่งหนีมัน ก็เปลี่ยนมาเป็นเตรียมตัวเองให้พร้อม เวลาที่จะต้องไปเจอกับมันดีกว่า เหมือนกับเวลาที่เราออกเดินทาง ก็เตรียมเสื้อกันหนาวไปบ้าง เผื่อเจออากาศที่หนาวเย็น เสื้อกันฝนหยิบไปหน่อยก็ดี เผื่อหยิบมาใส่เวลาที่ฝนมันตก หยูกยาก็ติดไปบ้างนิดๆ หน่อยๆ พอปฐมพยาบาลตัวเองเบื้องต้นเวลาเจ็บไข้

แต่ถ้าเดินทางออกไปแล้วโชคร้าย ต้องสะบักสะบอมกลับมาก็ไม่เป็นไร . . .รักษาตัวเองใหม่ เผื่อออกเดินทางในครั้งต่อไปก็เท่านั้นเอง แต่เชื่อมั้ยว่า . . . การเดินทางครั้งต่อไปของเรา มันต้องดีกว่าครั้งแรกอยู่แล้วล่ะ . . . ว่ามั้ย . . .?

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ควรงีบดีหรือไม่ในเวลากลางวัน

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/21/2552 0 ความคิดเห็น

หากคุณไม่ได้ป่วยเป็นโรคนอนไม่หลับแล้วการงีบหลับสักเล็กน้อยในช่วงเวลา 13.00 น.-16.00 น. ก็เป็นผลดีต่อร่างกายเหมือนกันครับ แต่ก่อนที่จะหาที่เหมาะๆเพื่องีบหลับคลายง่วงนั้นต้องไม่ลืมพิจารณาตามหลักการต่อไปนี้คือ
ต้องแน่ใจว่าคุณไม่เป็นโรคนอนไม่หลับ เพราะคนที่นอนไม่หลับหากแอบงีบในตอนกลางวันแล้วในเวลากลางคืนคุณจะเป็นเวลาที่สุดแสนทรมานสำหรับคุณมากทีเดียว
หากต้องการงีบ ควรงีบในช่วงสั้นๆสักแค่ครึ่งชั่วโมง ไม่ควรเกินกว่านั้นเพราะยิ่งนอนกลางวันนานเท่าใดร่างกายของคุณก็จะยิ่งตื่นตัวในเวลากลางคืน
เวลาที่ควรงีบคือในช่วงเที่ยงวันหลังรับประทานอาหารเสร็จ เพราะในช่วงเวลานี้เมื่อตื่นขึ้นมาร่างกายของคุณจะกระปรี้กระเปร่าขึ้นกว่าเวลาอื่น
หากคุณง่วงนอนในตอนกลางวันแต่งีบไม่ได้ ขอแนะนำให้คุณเดินไปมาหรือหากิจกรรมแทน เพราะเมื่อเลยเวลาไปแล้วร่างกายจะสามารถปรับตัวได้เอง

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความสุขอยู่ไม่ไกล...เริ่มได้ที่ใจเราเอง

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/14/2552 0 ความคิดเห็น
ความสุขอยู่ไม่ไกล...เริ่มได้ที่ใจเราเอง

be'BeAr

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/14/2552 0 ความคิดเห็น
be'BeAr

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/11/2552 0 ความคิดเห็น

นิสัย 10 อย่าง ที่ทำให้สมองพัง

1. ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม
2. กินอาหารมากเกินไป การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น
3. การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์
4. ทานของหวานมากเกินไป การกินของหวานมาก จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์
เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาของสมอง
5. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกายการสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อย
ส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง
6. การอดนอน การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อนการอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้
7. นอนคลุมโปง การนอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลง
ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย
จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานขอลสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
9.ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมองการขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ
10. เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของ

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เขียนโดย be'BeAr ที่ 12/04/2552 1 ความคิดเห็น

เคยสังเกต “ข้อเสีย” ที่อยู่ในตัวเองกันบ้างรึเปล่าจ๊ะ

วิธีการดูก็ง่ายมาก เพียงแค่ดูที่ราศีเกิดเท่านั้น!!


ราศีเมษ (21 มี..-20 เม..) >> เป็นคนใจร้อน ใจเร็ว ไม่อดทน อยู่สงบๆ ไม่เป็น สะเพร่า บุ่มบ่าม เจ้าโทโส เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางโลก หัวดื้อ ตลบตะแลง ชอบบงการและเพียบพูนด้วยตัณหา ความทะยานอยากได้อยากมี


ราศีพฤษภ (21 เม..-21 ..) >> เป็นคนหน้าตาดีเอามากๆ แต่ก็ดื้อหัวชนฝาทีเดียวเชียว นิยมบ้าวัตถุ ขี้อิจฉา เจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบทำเป็นเจ้าข้าวเจ้าของตามใจตัวเอง ดันทุรัง ชอบโต้แย้งเป็นที่สุด

เด็กดีดอทคอม :: ข้อเสียของฉันอยู่ที่......; tags: ร้องไห้ , เสียใจ , ข้อเสีย , วัยรุ่น , ทายใจ , นิสัย , วันเกิด , ผู้หญิง , ผู้ชาย , ราศี , โมโห , เกลียดข้อเสียของฉันอยู่ที่......

ราศีมิถุน (22 ..-21 มิ..) >> ถึงจะเป็นคนที่สนุกสนานรื่นเริง แต่ส่วนเสียประจำราศีนี้ คือ เหลาะแหละ โลเล ขี้เบื่อ กวนประสาท อยู่ไม่สุข ช่างกังวลและเครียดง่าย ชอบสอดรู้สอดเห็น ชอบยักย้ายเปลี่ยนแปลง และมักพาลหาเรื่องทะเลาะวิวาท


ราศีกรกฎ (22 มิ..-23 ..) >> เป็นชาวราศีที่น่ารักมีน้ำใจ แต่ข้อเสีย คือชอบผัดวันประกันพรุ่ง ขี้ระแวง นึกถึงแต่ตัวเอง หงุดหงิดง่าย ทำอะไรไม่เรียบร้อย อยากได้โน่นนี่ ไม่ตรงไปตรงมา ขุ่นใจเป็นประจำ หวั่นไหวง่าย ถ้าเป็นหญิงก็มักจะร้องไห้บ่อย เพราะอารมณ์พุ่งกระฉูดเสมอ


ราศีสิงห์ (24 ..-23 ..) >> ชาวสิงห์เกิดมาเป็นนักปกครอง จึงมักหยิ่ง ยโส โอหัง เชื่อมั่นตัวเองจนล้นเกิน มีความทะเยอทะยานสูง ชอบคุยโว ชอบวางมาด ขี้อิจฉา เจ้าทิฐิ เจ้าเล่ห์ ชอบควบคุม อวดดี ชอบก้าวก่ายแทรกแซง


ราศีกันย์ (24 ..-23 ..) >> เป็นชาวราศีที่สุดเซ็กซี่ แต่ก็สามารถครองตำแหน่งจอมจู้จี้ จุกจิก ชอบติ ชอบบ่น เจ้าทุกข์ ช่างวิตกกังวล โลเล ชอบอวดรู้ ชอบโต้แย้ง


ราศีตุลย์ (24 ..-23 ..) >> ชาวราศีนี้สุดฟู่ฟ่าก็จริง หากชอบหนีปัญหา ไม่ยอมตัดสินใจไม่ว่าเรื่องอะไร ชอบนินทา เป็นนักยักย้ายเปลี่ยนแปลง ถูกชักจูงง่าย ถูกหลอกก็ง่าย ชอบเหมางาน เจ้าชู้ เอาแต่ใจตัวเอง ทนการวิจารณ์ติติงไม่ได้เลย

เด็กดีดอทคอม :: ข้อเสียของฉันอยู่ที่......; tags: ร้องไห้ , เสียใจ , ข้อเสีย , วัยรุ่น , ทายใจ , นิสัย , วันเกิด , ผู้หญิง , ผู้ชาย , ราศี , โมโห , เกลียดข้อเสียของฉันอยู่ที่......


ราศีพิจิก (24 ..-22 ..) >> มีลับลมคมนัย คิดมาก ขี้หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวนง่ายและรุนแรง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดื้อรั้น ขี้โมโห ขี้อิจฉา ชอบเรียกร้องคนอื่น เจ้าคิดเจ้าแค้น


ราศีธนู (23 ..-21 ..) >> เป็นพวกมองโลกในแง่ดีอย่างหลับหูหลับตา อยู่นิ่งไม่ได้ ไม่มีไหวพริบ ชอบเป็นเผด็จการ ไม่ยอมใคร เชื่อมั่นตนเองจนล้นเกิน ชอบเรียกร้องคนอื่น ขวานผ่าซาก ชอบอยู่ตามลำพัง ไม่สนใจใคร และไม่รับผิดชอบ แต่น่าแปลกที่ใครๆ กลับมารุมตอมชาวราศีนี้กัน


ราศีมังกร (22 ..-20 ..) >> เอาใจยาก ช่างติ ขี้ระแวง ทะเยอทะยานสูง หัวรั้น เข้มงวด ช่างวิตกกังวล มักเก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ ชอบไต่เต้าแสวงหาตำแหน่งหรือสถานภาพสูงๆ ไม่เคยพึงพอใจอะไรเลย


ราศีกุมภ์ (21 ..-19 ..) >> ชาวราศีนี้แม้ดูสมบูรณ์แบบไปหมด แต่เป็นพวกไร้อารมณ์ ไม่มีไหวพริบ ชอบมีความลับ เย็นชา ไม่อ่อนไหว ดันทุรัง ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ต่อต้านสังคม เดาใจยาก มักมีอะไรประหลาดๆ หรือ ทำอะไรพิลึกพิลั่น


ราศีมีน (20 ..-20 มี..) >> นี่ก็เป็นอีกราศีที่ชอบหลบเลี่ยงปัญหา ชอบมีลับลมคมใน และทำตัวเป็นปริศนา ใจลอยเป็นที่หนึ่ง จะพูดจะทำอะไรก็คลุมๆ เครือๆ ไม่ชัดเจน ขี้เกียจหลุดโลก ลังเล อ่อนไหวเกินเหตุ ถูกหลอก หรือถูกชักจูงไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควรได้ง่าย เป็นคนที่ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้


ทราบ “ข้อเสีย” ที่ซ่อนอยู่ในตัวกันไปแล้วนะจ๊ะ

ตรงกันบ้างรึเปล่าจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เรื่องแปลก

เขียนโดย be'BeAr ที่ 11/29/2552 1 ความคิดเห็น
ถ้าคณุอาน่บทคาวมนี้ได้
คณุมีความคดิที่แขง็แรงพอสวคมรเลยนะ
คณุอาน่ได้หรอืเลป่าล่ะมีแค่ 55 คนจาก
100 เท่านนั้แล่หะที่อาน่ได้ฉนัไม่อายกจะเชอื่เลยว่า
ฉนัเข้าใจสงิ่ที่ฉนักำลงัอาน่อู่ยนี้มนัเปน็ปฎกราากรณ์ของคาวมคดิของม์ษุยนผลการศกึาษวจิยัจาก
มวหายิทัาลย แบมคิร์จดก่าลวว่า
มนัไม่สคำญเลยว่าตวัอรัษกเยีรงถตอ้กูงหรอืไม่ในคำคำหนงึ่
มนัสคำญแค่ว่าตวัอษักรแรกและตวัอษกัรตวัสดุทาย้ของ
คำนนั้อู่ยในตนำแห่งที่ถกูตอ้งที่เลืหอนนั้มนัจะมวั่ซวั่อ่ายงไร
คณุก็อาน่มนัได้อู่ยดี
ไม่มีปหญัาที่เปน็อาย่งนี้เราพะคาวมคดิของมษุน์ยนนั้
ไม่ได้อาน่ตวัอษกัรทกุตวัซกัหอน่ย แต่อาน่เปน็คำเตม็ ๆ
คำสดุยอดเลยใช่มยั้ล่ะ
ใช่เลยแต่ยงัไงฉนัก็คดิว่าการสกะดมนัสคำญันะถ้าคณุอาน่บควาบมนี้ได้
ชว่ยสง่ตอ่หอน่ยนะ

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เขียนโดย be'BeAr ที่ 11/28/2552 1 ความคิดเห็น
10 อันดับปราสาทราชวังที่หาดูยาก

10. The Potala Palace

พระราชวังที่ยิ่งใหญ่ในธิเบต


9. Mont Saint-Michel

ที่ฝรั่งเศส ปราสาทบนเกาะเล็กๆ ในอ่าว Normandy


ใกล้กับบริททาเนีย ปราสาทแห่งนี้เป็นฉาก


ในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง การ์ตูน หรือแม้แต่ในเกมส์



8. Predjamski Castle

ปราสาทบนถ้ำในสโลวาเนีย ปราสาทแห่งนี้


ไม่ใหญ่นักเมื่อเทียบกับปราสาทอื่นๆ แต่มีจุดเด่น


ที่ไม่เหมือนปราสาทใดๆ คือ ตัวปราสาทได้อยู่รวมกันไปกับถ้ำ


โดยถ้ำนี้ชื่อ Predjamski Grad หมายถึง ปราสาทอยู่หน้าถ้ำ



7. Neuschwanstein Castle

ปราสาทในเยอรมันแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง


เป็นต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์



6. Matsumoto Castle

นับเป็นปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น


5. Hunyad Castle

ปราสาทแดร็กคูล่า ในโรมาเนีย



4. Malbork Castle

ปราสาทสไตล์โกธิคซึ่งสร้างด้วยอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก


ตั้งอยู่ที่ประเทศโปแลนด์ ปราสาทแห่งนี้รวมถึงพิพิธภัณฑ์


ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก



3. Palacio da Pena

พระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดในโปรตุเกส


ตั้งอยู่บนภูเขาเหนือเมือง Sintra ในวันที่อากาศสดใส


จะสามารถมองเห็นปราสาทแห่งนี้ได้จากเมืองลิสบอน


พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15


ภายหลังได้มีการบูรณะใหม่ และอุทิศให้เป็นโบสถ์


ใช้เป็นศาสนสถาน



2. Lowenburg Castle

ปราสาทสิงโตในเยอรมัน ปราสาทแห่งนี้


ดูเหมือนปราสาทในยุคกลาง แต่จริงๆ แล้ว


ปราสาทแห่งนี้เป็นเพียงปราสาทที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบ


ปราสาทในยุคกลาง โดย Landgrave Wilhelm IX


สร้างขึ้นประมาณปลายศตวรรษที่ 18



1. Prague Castle

ปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก


จากการบันทึกสถิติของกินเนสบุ๊ค ปราสาทปรากแห่งนี้


มีความยาวประมาณ 570 เมตร กว้างโดยเฉลี่ย 130 เมตร


เพชรมงกุฏเชค (Czech Crown Jewels) ได้รับ


การเก็บรักษาไว้ที่นี่ ปราสาทแห่งนี้ยังเป็นสถานที่


ที่กษัตริย์แห่งเชค จักรพรรดิแห่งโรมัน


และประธานาธิบดีเชคโก สโลวาเกีย


และเชค รีพับบลิคใช้เป็นที่ทำงาน


วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สำหรับคนที่หมดกำลังใจ

เขียนโดย be'BeAr ที่ 11/22/2552 2 ความคิดเห็น


หากพบกับความล้มเหลวไม่ได้หมายความว่าชีวิตคุณล้มเหลว
เพียงแค่คุณยังทำมันไม่สำเร็จเท่านั้น

เมื่อบางอย่างล้มเหลว
อย่างน้อย เราก็ๆได้เรียนรู้บางอย่างจากสิ่งที่เราทำ

เมื่อเราล้มเหลวไม่ได้หมายความว่าเราโง่
แต่เรามั่นใจและเต็มใจที่จะลองต่างหาก

ความล้มเหลวไม่ได้บอกว่าเลิกซะเถอะ คุณไม่มีหวังหรอก
มันแค่บอกคุณต้องลองหาทางใหม่ ๆ

ความล้มเหลวไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ว่าคุณต้องต่ำ
มันแค่บอกว่าคุณไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ (ซึ่งก็เหมือนใครๆ )

ความล้มเหลวไม่ได้ทำให้คุณเสียเวลาไปเปล่า ๆ
แต่เป็นเหตุผลที่ดีในการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ

ความล้มเหลวไม่ได้บอกให้คุณยอมแพ้
มันบอกกับคุณว่า พยายามให้มากขึ้น

ความล้มเหลวไม่ได้บอกว่าคุณไม่มีทางทำได้
มันเพียงแต่บอกว่าต้องใช้เวลาหน่อย

ทุกเช้าเมื่ออาทิตย์เริ่มจับขอบฟ้าในป่าอัฟริกา
สิงโตรู้ว่ามันต้องวิ่งล่ากวางตัวที่วิ่งช้าที่สุด

ขณะเดียวกัน กวางเองก็รู้ว่ามันต้องวิ่งให้เร็วที่สุด หรือไม่ก็ตาย
จุดสำคัญไม่ได้อยู่ตรงที่ว่า คุณเป็นสิงโตหรือกวาง
เพียงแต่วิ่งให้สุดกำลังของตน เมื่อถึงคราวก็พอ

********เราหวังว่าคุณจะมีกำลังใจในการทำอะไร
เพื่อวันข้างหน้ามากขึ้น*******

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เขียนโดย be'BeAr ที่ 11/19/2552 4 ความคิดเห็น

คุณค่าของเวลา

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 10 ปีมีค่าขนาดไหน ถามคู่แต่งงานที่เพิ่งหย่าร้างกัน

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 4 ปีมีค่าขนาดไหน ถามนิสิตนักศึกษาที่เพิ่งรับปริญญาจากมหาวิทยาลัย

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 ปีมีค่าขนาดไหน ถามนักเรียนที่สอบไล่ตก

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 9 เดือนมีค่าขนาดไหน ถามแม่ที่เพิ่งคลอดลูก

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 เดือนมีค่าขนาดไหน ถามมารดาที่คลอดบุตรยังไม่ครบกำหนด

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 อาทิตย์มีค่าขนาดไหน ถามบรรณาธิการหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 ชั่วโมงมีค่าขนาดไหน ถามคนรักที่รอพบกัน

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 นาฑีมีค่าขนาดไหน ถามคนที่พลาดรถไฟ รถประจำทาง หรือเรือบิน

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 วินาฑีมีค่าขนาดไหน ถามคนที่รอดตายจากอุบัติเหตุอย่างหวุดหวิด

ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลาเสี้ยวหนึ่งของวินาฑีมีค่าขนาดไหน ถามนักกีฬาโอลิมปิคที่ชนะเหรียญเงิน

ถ้าท่านอยากรู้ว่ามิตรภาพมีค่าขนาดไหน เสียเพื่อนสักคนหนึ่ง

เวลาไม่เคยรอใคร เมื่อมันผ่านไปแล้ว มันจะไม่กลับมาอีก จงใช้เวลาของท่านทุกขณะอย่างดีที่สุด

ท่านจะรู้คุณค่าของเวลาเมื่อท่านแบ่งปันกับคนที่พิเศษสุดในชีวิตของท่าน

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เขียนโดย be'BeAr ที่ 11/18/2552 1 ความคิดเห็น

นัยอันล้ำลึกของคำว่า “ขอบคุณ”


แก้วที่คว่ำอยู่กลางสายฝนต่อให้ฝนตกกระหน่ำทั้งคืน
ก็ไม่อาจเต็มไปด้วยน้ำคนที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้
ต่อให้คลุกคลีอยู่กับนักปราชญ์ทั้งคืนทั้งวันก็ยังโง่เท่าเดิม

นัยอันล้ำลึกของคำว่า “ขอบคุณ”

ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้
ขอบคุณความยากจน ที่ทำให้เป็นคนมุมานะ
ขอบคุณความล้มเหลว ที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ

ขอบคุณความผิดพลาด ที่ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม
ขอบคุณความริษยา ที่ทำให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ขอบคุณคำวิพากษ์วิจารณ์ ที่ทำให้ผลิบานอย่างไร้ข้อตำหนิ

ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้จักครูที่ชื่อประสบการณ์
ขอบคุณความผิดหวัง ที่ทำให้ตั้งสติเพื่อลุกขึ้นมาใหม่
ขอบคุณศัตรูที่แกร่งกล้า ที่ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ใช่มืออาชีพ

ขอบคุณมหกรรมคอรัปชั่น ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองใหม่
ขอบคุณความป่วยไข้ ที่ทำให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพ
ขอบคุณความทุกข์ที่ ทำให้เรารู้ว่าความสุขมีค่าแค่ไหน

ขอบคุณความพลัดพราก ที่ทำให้เราสละจากความยึดมั่น ถือมั่น
ขอบคุณเพลิงกิเลส ที่ทำให้เรามีเหตุอยากถึงพระนิพพาน
ขอบคุณความตาย ที่ทำให้ฉากสุดท้ายของชีวิตสมบูรณ์แบบ…

 

be'BeAr Copyright © 2009 Baby Shop is Designed by Ipietoon Sponsored by Emocutez